จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้บริโภค ฟาบิโอ ทิวิติ รองประธานบริษัท อินฟอร์ อาเชียนได้ให้แนวโน้มวิถีดิจิทัลที่ส่งผลต่อระบบซัพพลายเชนของสินค้าเพื่อการบริโภค
1. การเข้าถึงข้อมูล
ผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าจะได้รับข้อมูลมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อสินค้าแทนการเชื่อในสิ่งที่แบรนด์พูดถึงเรื่องราวของตน ผู้บริโภคจะค้นหาข้อมูลของสิ่งที่พวกเขากำลังจะซื้อเชิงลึกมากขึ้นนอกเหนือจากข้อมูลในฉลากบนตัวสินค้า เช่น แหล่งที่มาของสินค้า รูปแบบการขนส่งสินค้า การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ผลิตหรือผู้ขายสินค้าจะต้องแจ้งรายละเอียดผู้บริโภคในยุคดิจิทัลรับทราบ
2. การเชื่อมต่อกับผู้บริโภค
ยิ่งผู้บริโภครู้เท่าทันมากขึ้น ยิ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ขายสินค้าที่จะได้เชื่อมต่อกับผู้บริโภคมากขึ้นในยุคดิจิทัล ผู้ขายสินค้าและผู้ที่อยู่ในซัพพลายเชนของสินค้าเพื่อการบริโภคจะได้รับโอกาสเชื่อมต่อกับผู้ซื้อมากขึ้นขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจความต้องการและใกล้ชิดกับลูกค้าปลายทางมากขึ้น เช่น ในอนาคตผู้บริโภคอาจจะได้รับข้อความดิจิทัลสื่อสารกับสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคเกี่ยวกับวันหมดอายุหรือคุณภาพของสินค้า ว่าอยู่ในสถานะใด เป็นต้น
3. ตรวจสอบกระบวนการ
ระบบซัพพลายเชนที่มีการนำเทคโนโลยีหรือระบบดิจิทัลมาใช้ ทำให้เกิดการมองเห็นภาพรวมของกระบวนการชัดเจนขึ้น เนื่องจากสามารถตรวจสอบกระบวนการ ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จากการที่กระบวนการทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดผ่านการจัดการทางดิจิทัล จะทำให้ผู้ผลิตหรือผู้ขายสินค้ามั่นใจได้ว่า สามารถจัดส่งสินค้าถึงชั้นวางสินค้าได้ในเวลาที่เหมาะสม
จะเห็นว่า เทคโนโลยีล้วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและธุรกิจอุปโภคบริโภค หากมองในแง่ดี เทคโนโลยีจะช่วยให้ซัพพลายเชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
แหล่งข้อมูล: https://businesstoday.co/corporate/17/12/2019/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%
E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5/